เปิดคาดการณ์งบไตรมาส 2 กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม จับตา 3 ปัจจัยครึ่งหลังปี 66

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส คาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL), บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) และ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ในช่วงไตรมาส 2 ปี 66 หรือตั้งแต่ เม.ย. – มิ.ย 66 เท่ากับ 6.8 พันล้านบาท เติบโต 231% จากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกจากขาดทุนปกติ 1.3 พันล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยปัจจัยมาจากจาก MINT ที่โรงแรม NH Hotel เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น (High Season) ในยุโรป และ AOT จากส่วนลดให้กับคู่ค้าทั้งสายการบิน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทยอยกลับสู่ปกติตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 ชดเชยการอ่อนตัวของกำไรปกติของ ERW และ CENTEL ที่เข้าสู่โลว์ซีซั่นของท่องเที่ยวในไทยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้หากเทียบไตรมาส 2 ปี 66 กับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (Pre-COVID) คาด ERW มีกำไรปกติฟื้นเกินกว่าไตรมาส 2 ปี 62 จากรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของโรงแรม Ex Hop Inn สูงเกินไตรมาส 2 ปี 62 ราว 37% หนุนด้วยค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR)

 เปิดคาดการณ์งบไตรมาส 2 กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม จับตา 3 ปัจจัยครึ่งหลังปี 66

อย่างไรก็ตามตรงข้ามกับ CENTEL ที่กำไรปกติมีแนวโน้มต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 หลังรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (ไม่รวมโรงแรมในดูไบ ที่รับรู้ผ่าน Equity method) ยังต่ำกว่าไตรมาส 2 ปี 62 ราว 5% สาเหตุจากโรงแรมในมัลดีฟส์มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่ำกว่าไตรมาส 2 ปี 62

ฝ่ายวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการที่ตลาดคาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 2 ปี 66 ของ CENTEL ที่ 333 ล้านบาท สูงกว่า 2 ปี 62 ที่มีกำไร 290 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างท้าทาย สะท้อนจากงวดไตรมาส 1 ปี 66 มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่ำกว่าไตรมาส 1 ปี 62 ราว 9% ซึ่งพบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 554 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74% ของช่วงก่อนโควิด-19

จับตา 3 ปัจจัยต่อการท่องเที่ยวไทยช่วงครึ่งหลังของปี 66

1. นักท่องเที่ยวจีน ต้องลุ้นต่อช่วงครึ่งหลังของปี 66 คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน, การทยอยเพิ่มสายการบินของจีน, ความพยายามลดระยะเวลาในการอนุมัติ VISA เข้าไทย และช่วง ต.ค. 66 ที่มีโกลเด้นวีค (Golden Week) ถือเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกเดินทาง น่าจะสร้าง โมเมนตัมที่ดีของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่เหลือของปี ภาพรวมฝ่ายวิจัยประเมิน นักท่องเที่ยวจีนมาไทยทั้งปีอยู่ในกรอบ 30-40% ของปี 2562 หรือประมาณ 3.3-4.4 ล้านคน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนช่วงครึ่งแรกของปี 66 คิดเป็นสัดส่วน 33% – 44% ของสมมติฐานของนักท่องเที่ยวจีนมาไทยทั้งปี

2.นักท่องเที่ยวอินเดีย แม้ช่วงครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 7.6 แสนคน และคิดเป็น 78% ของช่วงก่อนโควิด-19 อย่างไรก็ดีมาตรการการเก็บภาษีนักท่องเที่ยวขาออก (Outbound packages) ของอินเดียจาก 5% เป็น 20% ตั้งแต่ ต.ค. 66 มีโอกาสส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียในงวดไตรมาส 4 ปี 66 หรือ อาจไม่กระทบปริมาณการเดินทางแต่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อทริปต่ำลง ซึ่งคาดว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่สูงมาก

ในทางตรงข้ามมัลดีฟส์ที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวอินเดียช่วงครึ่งแรกของปี 66 ราว 12% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามัลดีฟส์ น่าจะได้รับผลกระทบ มากกว่าไทย จึงประเมินหุ้นในกลุ่มฯ ที่มีสัดส่วนรายได้จากมัลดีฟส์มากกว่ากลุ่มฯ อย่าง CENTEL มีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันสูงกว่า MINT และ ERW

3.สถานการณ์การเมืองไทยยังไม่นิ่ง แม้ผ่านการเลือกตั้งมา 1 ไตรมาส อย่างไรก็ดีมองการชุมนุมทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ยังไม่ได้ยืดเยื้อและมีความรุนแรง จึงคงมุมมองผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยยังจำกัด เพียงแต่หากสถานการณ์พลิกผันทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลุดจากพรรคที่ ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 ไปสู่พรรคอันดับ 3, 4 หรือ 5 อาจต้องจับตาการชุมนุมทางการเมืองใกล้ชิด

เงินเฟ้อขยับขึ้นเล็กน้อย – เปิด 5 อันดับค่าใช้จ่ายครัวเรือน เดือน ก.ค.

ดัชนีครัวเรือนเดือนก.ค.ฟื้นตัวเล้กน้อย อานิสงส์จากท่องเที่ยวฟื้น

เดือน ก.ค. คาด AOT ผู้โดยสารใช้บริการทำจุดสูงสุดของปี

สำหรับการท่องเที่ยวไทย ฝ่ายวิจัยประเมินฟื้นตัวต่อเนื่องหลังผ่านโลว์ซีซั่น สะท้อนจากนผู้โดยสารระหว่างประเทศเบื้องต้น 6 สนามบิน (ขาเข้า + ขาอออก) ของ AOT ช่วง ก.ค. 66 อยู่ที่ 5.2 ล้านคน ทำจุดสูงสุดของปี และฟื้นตัวสู่ระดับ 74% ของ ก.ค. 62

ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลผู้โดยสารระหว่างประเทศ 6 สนามบิน ช่วง ส.ค. 60-62 พบว่าเติบโตเฉลี่ยราว 2% เมื่อเทียบรายเดือน ภายใต้โมเมนตัมของการเปิดประเทศ ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ผู้โดยสารระหว่างประเทศ ส.ค. 66 เพิ่มขึ้นทั้งรายเดือน และ รายปี

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวประเมินเป็นบวกต่อกำไรปกติงวด ก.ค.-ก.ย.66 ของหุ้นที่มีรายได้จากไทยเป็นหลัก AOT, CENTEL และ ERW ให้ขยายตัวทั้วรายไตรมาสและรายปี พร้อมกับคาดกำไรปกติไต่ระดับเป็นขั้นบันไดจนถึงงวดไตรมาส 1 ปี 67 (ไตรมาส 2 ปี 67 ของ AOT) ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของท่องเที่ยวไทย

ปธน.ยูเครนปลดผู้บัญชาการกองทัพ ชี้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์

ประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประกาศปลด พลเอก วาเลรี ซาลุจนี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพยูเครนแล้วพร้อมทั้งแต่งตั้ง พลเอก โอเล็กซานเดอร์ เซียร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดิน มาทำหน้าที่แทน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์การสู้รบ

การประกาศปลดพลเอกซาลุจนีออกจากตำแหน่งมีขึ้นหลังจากเกิดกระแสข่าวนานหลายสัปดาห์เกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันระหว่างเซเลนสกีและซาลุจนี ซึ่งเป็นผู้นำเหล่าทัพในการต่อสู้กับรัสเซียนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022

ยูเครนลำบาก? ขีปนาวุธรัสเซีย 2 ชนิดหลบระบบป้องกันภัยทางอากาศได้

โดรนสหรัฐฯ ปลิดชีพแกนนำคาตาอิบ ล้างแค้นเหตุโจมตีฐานจอร์แดน

นายกฯ อิสราเอลเมินข้อเสนอหยุดยิงฮามาส ชี้ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม

ส่วนการแต่งตั้งเซียร์สกีเป็นผู้บัญชาการกองทัพคนใหม่นั้นเกิดขึ้นท่ามมกลางรายงานว่า พลเอกเซียร์สกีไม่ต้องการดำรงตำแหน่งดังกล่าว

เซเลนสกียืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำกองทัพไม่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลหรือการเมือง แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์ในสนามรบและการบริหารจัดการ ซึ่งจากนี้ไปปฏิบัติการต่าง ๆ ต้องใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกเครื่องสายงานบัญชาการ

ขณะที่ รัสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่า การสู้รบไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวิธีการและยุทธศาสตร์

เช่นเดียวกับมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาสำนักงานประธานาธิบดียูเครนที่ย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงผู้บัญชาการกองทัพเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปรับกลยุทธ์ในปฏิบัติการรุกกลับ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพยูเครนนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยเซเลนสกีระบุว่า สายการบังบัญชาระดับสูงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่พลเอกซาลุจนียังสามารถอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานได้

สำหรับพลเอกซาลุจนีเป็นหนึ่งในนายทหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งจากกำลังพลเองและประชาชนทั่วไป รวมทั้งได้รับการยกยกย่องเป็นวีรบุรุษของชาติ และมีคะแนนนิยมมากกว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีด้วย

ส่วนพลเอกเซียร์สกี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนคนใหม่ มีประสบการณ์ในการสู้รบทั้งรูปแบบตั้งรับและการบุกไปข้างหน้า

ในช่วงที่สงครามเริ่มต้นขึ้น พลเอกเซียร์สกีได้รับมอบหมายภารกิจปกป้องกรุงเคียฟ แต่ผลงานสำคัญคือความสำเร็จในปฏิบัติการรุกกลับที่ภูมิภาคคาร์คิฟในช่วงฤดูร้อนปี 2022 ซึ่งทำให้กองทัพรัสเซียต้องประกาศถอนกำลังทหารเกือบทั้งหมดออกจากพื้นที่

นับจากนั้นเป็นต้นมา พลเอกเซียร์สกีได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในสมรภูมภูมิภาคตะวันออก หนึ่งในสองพื้นที่สู้รบหลักของปฏิบัติการรุกกลับ

ขณะที่สมาชิกสภาฝ่ายค้านบางส่วนวิจารร์ว่า การปลดพลเอกซาลุจนีคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ และจะเกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน

86 คำอวยพร "วันตรุษจีน 2567" ส่งแล้วผู้ใหญ่เอ็นดู เด็กน้อยได้อั่งเปา

9 ก.พ. ไหว้ตรุษจีน 2567 จุดธูปกี่ดอก เวลาไหนดี พร้อมทิศมงคลเสริมเฮง คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อัปเดต!“เงินอุดหนุนบุตร 2567”เงื่อนไขรับสิทธิ-ปฏิทินรับเงินเช็กที่นี่!

 ปธน.ยูเครนปลดผู้บัญชาการกองทัพ ชี้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์