"อดิศร" พร้อมคุย กฎหมายนิรโทษฯ แต่ต้องไม่มี 112

อดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลให้พรรคก้าวไกลเจรจาถึงการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมกับวิปรัฐบาล ว่า ตัวเองยังไม่ได้รับการประสานหรือติดต่อมาจากพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม การเจรจาพูดคุยเรื่องดังกล่าวไม่มีปัญหา วิปรัฐบาลพร้อมเจรจา และพร้อมสนับสนุนร่างกฎหมายที่ได้รับการบรรจุไว้ในระเบียบวาระ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดของการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่พร้อมจะสนับสนุน อดิศร กล่าวว่า ต้องไม่มีประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 112

"อุ๊งอิ๊งค์" ยังไม่รู้ "ทักษิณ" รับอภัยโทษ 5 ธ.ค.นี้

สภาพอากาศวันนี้! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ปกคลุม อีสาน – กลาง – ตะวันออก เย็นลง 1-3 องศาฯ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 "อดิศร" พร้อมคุย กฎหมายนิรโทษฯ แต่ต้องไม่มี 112

เพราะเป็นปัญหาสำคัญต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และเป็นนัยที่รู้อยู่แล้วว่า ทุกพรรคไม่เอาด้วย ดังนั้นจะหวังความสำเร็จได้ยาก พรรคก้าวไกลจะไปไม่รอด เพราะคะแนนไม่เพียงพอ

อดิศร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์เรื่องนิรโทษกรรมที่ได้รับความเจ็บปวด อยากให้พรรคก้าวไกลได้นำไปให้ตลอด หากตรงกันก็พูดคุยกันได้ไม่เป็นปัญหา ส่วนเรื่องมาตรา 112 ที่เป็นปัญหาในคราวนั้น และอาจจะเป็นปัญหาของคราวนี้ ควรตัดประเด็นให้สั้น อย่าพกมาเยอะ และควรสร้างความเข้าใจทีละขั้นตอน

ด้าน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงจุดยืนต่อการนิรโทษกรรม ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องรวมคดี 12 เพื่อปลดเปลื้องพันธนาการทางคดีความให้กับทุกกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเมือง ทำให้ทุกฝ่ายกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นแล้วตั้งต้นกันใหม่

นอกจากนี้ ณัฐวุฒิ ยังแนะนำให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยไปคุยกันดีๆ รับฟังกันมากๆ แล้วคิดถึงอนาคตบ้านเมืองมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าปล่อยมือเด็ก อย่าปล่อยมือลูกหลานที่ประสบชะตากรรมกันอยู่ลำพัง และเวลาสถานการณ์มันอาจจะค่อยๆ คลี่คลายกันได้

ขณะที่ เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ใครได้ใครเสีย? ที่พรรคเพื่อไทยจะไม่เอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลนั้น เพราะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย, กลัวเป็นชนวนความขัดแย้ง และถ้า พ.ร.บ.ผ่าน จะเป็นผลงานของพรรคก้าวไกล อาจทำให้พรรคเพื่อไทยเสียมวลชนกลุ่มหนึ่งไปได้

อีกทั้งการอ้างเรื่องความขัดแย้งของสังคม ถ้าหากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ครอบคลุมถึงความผิด ม.112 นั้น เห็นได้ชัดว่าเพื่อไทย เปลี่ยนจุดยืนตัวเอง จากเคยเห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 ผ่านการแสดงท่าทีของ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย

แต่เมื่อเพื่อไทยมาเป็นแกนนำรัฐบาล กลับวางเฉย และอ้างเหตุผลเรื่องความขัดแย้งของสังคมขึ้นมา ซึ่งในทางกลับกัน ถ้าหากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ครอบคลุมถึงผู้กระทำผิด ม.112 ก็ยิ่งสร้างความแตกแยกมากยิ่งขึ้น เพราะการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเลือกปฏิบัติ

เพราะฉะนั้นส่วนตัวเห็นว่า ถ้าจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมา ก็ควรครอบคลุม ถึงการกระทำผิดทางการเมืองทุกกลุ่มทุกกรณี เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ในการเลือกปฎิบัติหรือปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน ซึ่งจะสร้างความขัดแย้งทางสังคมไม่จบสิ้น

สุดท้าย เทพไท บอกว่า หากรัฐบาลชุดนี้ จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นตามที่ประกาศไว้ ก็ต้องเริ่มต้นจากการให้อภัยต่อกัน มาเริ่มต้นกันใหม่ ถ้ายังมีการกระทำผิดครั้งใหม่อีก ก็ต้องมาดำเนินคดีใหม่ต่อไป

ด้านพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ พรรคเพื่อไทยบางส่วนออกมาสนับสนุนว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดีขึ้น ที่เราเริ่มเห็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือพรรครัฐบาลที่มีความพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล และพร้อมที่จะพูดคุย เพื่อหาแนวทางในการที่พรรครัฐบาลจะมาสนับสนุน

โดยพริษฐ์ ยืนยัน ว่าร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการเสนอเพื่อเริ่มแนวทางการยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา หากพรรคการเมืองอื่นเห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล สามารถสนับสนุนได้ หรือหากยังมีประเด็นที่ยังเห็นต่างอยู่ ก็เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคตนเองมาประกบได้ด้วยเช่นกัน

พลิกประวัติ 3 ตัวเต็งก้าวไกล นั่งปธ.สภา

วันที่ 19 มิ.ย. 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ไม่การันตีข่าวว่า ใครเป็นตัวเต็ง หรือ ใครมีสิทธิ์ได้นั่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกแค่ว่า เดี๋ยวต้องหารือกันก่อนโดยเชื่อว่ากระบวนการทั้งหมด จะเกิดขึ้นหลังหารือร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน

นายชัยธวัช ยังบอกอีกว่า เมื่อรับรองส.ส.เรียบร้อยแล้ว พรรคจะเดินหน้าเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นคำพูดจาก สล็อตออนไลน์

ลงตัวแล้ว!เพื่อไทย ให้พรรคคะแนนอันดับ 1 นั่ง “ประธานสภาฯ”

 พลิกประวัติ 3 ตัวเต็งก้าวไกล นั่งปธ.สภา

“ก้าวไกล” ขอบคุณ “เพื่อไทย” ยอมถอยประธานสภาฯ รอแถลงหลังรับรอง ส.ส.

ส่วน 3 รายชื่อ ที่ถูกระบุว่า เป็นตัวเต็งประธานสภา ของก้าวไกล ประกอบด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บบัญชีรายชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พิษณุโลก ใน 3 คนนี้ นายธีรัจชัย อายุมากที่สุด คือ 59 ปี นายณัฐวุฒิ อายุ 46 ปี ส่วน นายปดิพัทธิ์ อายุ 42 ปี

นายธีรัจชัย จบปริญญาตรี และ ปริญญาโท จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเนติบัณฑิตไทย สำนักเนติบัณฑิตยสภา ถือว่าเป็นมือกฎหมายที่เชี่ยวชาญการเมืองคนหนึ่งและ นายธีรัจชัย เริ่มต้นเล่นการเมือง ตั้งแต่ 2545 เป็นหนึ่งในฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยรักไทยด้วย

ส่วนในช่วง ปี 2562 นายธีรัจชัยประท้วงและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในประเด็นสำคัญหลายเรื่อง เช่น แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน คดีบอสวรยุทธ์ เป็นต้น

ส่วน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ดีกรีปริญญาตรีด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทกฎหมายจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยเป็นหัวหน้างานกฎหมาย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก และในพรรคก้าวไกล เขาเป็นรองหัวหน้าพรรค และเป็นคณะกรรมการวินัยและจรรณยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกลด้วย

ส่วน หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา เคยเป็นสัตวแพทย์ และทำงานด้านพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคม สมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย ในด้านการเมือง เคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เคยอภิปรายตีแผ่ทุจริตกองทัพ ต้นตอกราดยิงโคราช และเป็นหนึ่งในมืออภิปรายเกี่ยวกับการแก้ไขระบบเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ หาก ประธานสภา มาจากก้าวไกล ตามรายงานข่าวล่าสุด ที่บอกว่า รองประธานสภา 2 คน จะมาจากพรรคเพื่อไทย นี่อาจถือเป็นเกมยากของก้าวไกล เหมือนกัน เพราะ ทั้ง 3 คนที่ว่านี้แม้จะมีประสบการณ์ด้านกฎหมายอยู่บ้าง แต่เป็นส.ส.สมัยที่ 2 เอง

ขณะที่คนของพรรคเพื่อไทย จะเรียกว่าแก่พรรษามากกว่าก็คงไม่ผิดเพราะ ชื่อฝั่ง เพื่อไทย ที่ปรากฎออกมา แม้จะไม่ได้รับการยืนยันจากพรรค แต่ว่า ชื่อเสียงแต่ละคนก็เป็นที่รู้จักอย่างดี ทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง และสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรองประธานสภาคนที่ 1

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า พรรคยังไม่ได้กำหนดตัวบุคคล แต่เชื่อว่าจะมีการเร่งคุยกันเรื่องนี้ ชื่อทั้งหมดยังเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น

สำหรับสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ ตามกรอบเวลา 22 มิ.ย. พรรคร่วม 8 พรรคจะมีการประชุมกัน เชื่อว่า 2 สัปดาห์สุดท้ายของ มิถุนายน พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะต้องเร่งทั้งเรื่องประธานสภา นายกรัฐมนตรี รวมถึงรายชื่อ คณะรัฐมนตรีแล้ว

เดอะค็อป รอเลย! “แกมโบล” จ่อเปิดตัวรองเท้าคอลเล็กชั่น “ลิเวอร์พูล” อีก 6 รุ่น

ธุรกิจ “แฟนเช่า” รุ่งเรือง เมื่อชาวจีนรุ่นใหม่ไม่อยากแต่งงาน

“กรุงไทย” ชี้แผนยกระดับแหลมฉบังสู่ท่าเรือสีเขียว สร้างโอกาส 3 ธุรกิจ

แฟนหงส์แดง โหวต อลีสซง คว้านักเตะแห่งปีลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2022-23

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 คุณนิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ชื่อดัง “แกมโบล” (GAMBOL) เปิดเผยว่า ในปี 65 ที่ผ่านมาการร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เอฟซี (Liverpool FC) เปิดตัวรองเท้าลำรองคอลเล็กชั่นลิขสิทธิ์แท้ ได้รับแสตอบรับดีเป็นอย่างมากจากแฟนบอลหงส์แดง จนยอดพรีออเดอร์เต็มภายใน 30 นาทีแรกในวันเปิดตัว

โดยจุดเริ่มต้นในการร่วมมือดังกล่าว เนื่องจากเล็งเห็นว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมรักสุขภาพมากขึ้น จึงขยายตลาดมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนรักกีฬา ซึ่งลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่ใหญ่ และกลุ่มคนรักกีฬาก็รู้จักกันดี บริษัทจึงได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทดลองกับสินค้า ผลปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด

ทั้งนี้บริษัทยังเหลือสัญญากับลิเวอร์พูลอีก 2 ปี และในปีนี้ 66 บริษัทเตรียมเปิดตัวรองเท้าลำรอง (รองเท้าแตะ) คอลเล็กชั่นลิเวอร์พูลลิขสิทธิ์แท้ อีกราว 5-6 รุ่น ซึ่งยังคงเป็นรุ่นลิมิเต็ด ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากสโมสรลิเวอร์พูลแล้ว

ตอนนี้น่าจะมีการอนุมัติแล้วมาประมาณ 5-6 รุ่น แต่เราไม่ได้ปล่อยไปทีเดียวในเฟส 2 ทันที อาจจะทยอยไป เหมือนเป็นสต็อกให้เราว่าจะปล่อยตัวไหนก่อน

ขณะที่การดำเนินงานในปีนี้ 66 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,300 ล้านบาท และในปี 70 ที่ 3,500 ล้านบาท โดยตอนนี้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรองเท้าลําลองในไทยคิดเป็นสัดส่วน 10% ของมูลตลาดทั้งหมด 10,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของแบรนด์ไทย ส่วนในต่างประเทศได้เตรียมขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงแถบยุโรป เช่น อิตาลี รัสเซีย ยูเครน และจอร์เจีย ส่วนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คุณนิติ ยอมรับว่าในกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงมีแรงกดดันจากสินค้าของจีน ซึ่งมีการแข่งขันกันในด้านราคาสูง

ในแถบ CLMV คู่แข่งก็คือจีนแน่นอน เพราะว่าพวกนี้สามารถจะนำเข้ามาจากแนวชายแดนเขาได้ และพอจีนเข้ามา ที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือสงครามราคา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามสร้างความแปลกใหม่ ความแตกต่าง แบบของจีนเขาไม่ทำแต่เราทำอะไรแบบนี้”

สำหรับโรงงานรองเท้าปัจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตราว 40,000 คู่ จากกำลังการผลิตที่ทำได้ทั้งหมด 50,000 คู่ ซึ่งคุณนิติ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีแผนขยายโรงงานเพิ่มเติม เนื่องจากมองว่ากำลังผลิตยังเหลือเพียงพอรองรับตลาดทั้งในและนอกประเทศได้

ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นบริหารต้นทุนมากขึ้น ทั้งด้านค่าแรง และใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่า โดยตั้งเป้าให้โรงงานลดค่าใช้จ่ายให้ได้อย่างน้อยปีละ 10%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 เดอะค็อป รอเลย! “แกมโบล” จ่อเปิดตัวรองเท้าคอลเล็กชั่น “ลิเวอร์พูล” อีก 6 รุ่น

ส่วนกรณีนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ คุณนิติ ยอมรับว่ามีผลกระทบกับบริษัท ดังนั้นจึงต้องพยายามหาเครื่องจักรอัตโนมัติ เช่น แขนกลหุ่นยนต์ มาทำงานในส่วนที่สามารถทดแทนแรงงานคนให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการใช้แรงงานคน

หวิดเกิดอุบัติเหตุ! เครื่องบิน “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” มีปัญหาขณะบินขึ้น

เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นฮ่องกง เกิดเหตุหวาดเสียวเมื่อเที่ยวบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ซึ่งกำลังจะขึ้นบินจากสนามบินนานาชาติฮ่องกง เกิดเบรกกะทันหันขณะกำลังทำความเร็วก่อนเทคออฟ ส่งผลให้ล้อมากกว่า 10 ล้อมีเปลวไฟลุกและได้รับความเสียหาย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน CX880 จากฮ่องกงไปลอสแองเจลิส มีลูกเรือ 17 คนและผู้โดยสาร 293 คน หลังเกิดเหตุมีผู้โดยสาร 11 รายได้รับบาดเจ็บขณะอพยพออกจากเครื่องบิน โดย 2 คนกระดูกหักและต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

คาดมวยกรง “มัสก์-ซักเคอร์เบิร์ก” ทำเงินได้ 1 พันล้านดอลลาร์

มาเร็วไปเร็ว! ย้อนไทม์ไลน์ “กบฏแวกเนอร์” การก่อกบฏที่จบใน 24 ชม.

“แวกเนอร์” ประกาศยุติการก่อกบฏ “พริโกซิน” เตรียมเดินทางไปเบลารุส

แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งใกล้ชิดกับการสอบสวน รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบุความเร็วและทิศทางลม โดยจากผลการสอบสวนเบื้องต้น ลูกเรือห้องนักบินพบปัญหากับอุปกรณ์เป็นครั้งแรกเมื่อเครื่องบินกำลังวิ่งบนรันเวย์เพื่อบินขึ้นในช่วงเช้าของวันเสาร์

“เนื่องจากการเบรกอย่างแรงของเครื่องบิน ทำให้ล้อทั้ง 12 ล้อได้รับความเสียหาย และกล้องวงจรปิดในห้องนักบินก็เผยให้เห็นเปลวไฟบางส่วนบนล้อ” แหล่งข่าวกล่าว

 หวิดเกิดอุบัติเหตุ! เครื่องบิน “คาเธ่ย์ แปซิฟิค” มีปัญหาขณะบินขึ้น

เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER กำลังแล่นไปตามรันเวย์ด้วยความเร็ว 154 นอต (285 กม./ชม.) โดยกำลังเตรียมบินขึ้นเมื่อเบรกฉุกเฉินถูกใช้งาน และบินกลับเข้าเกตอีกครั้ง

ตำรวจกล่าวว่า ผู้โดยสารชาย 1 คนและหญิง 10 คน อายุระหว่าง 29 ถึง 77 ปี ได้รับบาดเจ็บขณะออกจากเครื่องบินโดยใช้สไลด์ฉุกเฉิน

โฆษกของการท่าอากาศยานกล่าวว่า ได้รับรายงานเมื่อเวลา 00.20 น. ของวันเสาร์ว่า เที่ยวบินดังกล่าวได้ยกเลิกการขึ้นบินเนื่องจาก “พบสัญญาณผิดปกติ”

เซเลนา ลี เซวา นักแสดงวัย 42 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร เล่าถึงช่วงเวลาที่เครื่องบินเบรกอย่างแรงว่า “ทุกคนตกใจมากเมื่อกัปตันและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบอกให้เราอพยพ ทุกคนกระวนกระวาย กรีดร้อง และสิ่งต่าง ๆ ก็วุ่นวาย”

เธอเสริมว่า “มันยังทำให้ฉันสั่นและฉันก็กลัวมาก มีสไลเดอร์ออกมา ทุกคนต้องไถลลงมา และคนส่วนใหญ่ก็มีรอยขีดข่วน”

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย Selena Lee 李施嬅 (@selenaleelalee)

ภาพถ่ายภาพหนึ่งที่เผยแพร่ทางออนไลน์แสดงให้เห็นยางเครื่องบินอย่างน้อย 3 ล้อที่แตก แต่คาเธ่ย์และตำรวจไม่ได้ยืนยันจำนวนยางที่ได้รับความเสียหายหรือสาเหตุของอุบัติเหตุ

ในถ้อยแถลง สายการบินระบุว่า ได้ดำเนินการ “ยกเลิกการบินขึ้นตามขั้นตอนมาตรฐาน หลังจากตรวจพบปัญหาทางเทคนิคโดยลูกเรือ” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

สายการบินเสริมว่า ได้มาการจัดเจ้าหน้าที่ของคาเธ่ย์ให้ประจำอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ “เราต้องขออภัยอย่างสูงที่ทำให้การเดินทางของลูกค้าหยุดชะงัก … เราจะร่วมมือกับทางการในการสืบสวน”

คาเธ่ย์กล่าวว่า ได้จัดเตรียมโรงแรมที่พักสำหรับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่เครื่องบินอีกลำถูกส่งไปยังลอสแองเจลิสและออกเดินทางเมื่อเวลา 10.12 น. ของวันเสาร์

อึ้ง คัม-ฮุง ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมการบินและการบินแห่งมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค กล่าวว่า ความเสียหายของยางล้อเครื่องบินนั้น “หายากมาก” จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและเปลี่ยนยางเป็นประจำ และโดยปกติ ยางจะไม่แตกก่อนที่จะเปลี่ยนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ แม้เหตุยางล้อเครื่องบินแตกจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยเมื่อเดือนมกราคม 2018 เที่ยวบินของคาเธ่ย์จากเซี่ยงไฮ้ไปฮ่องกงพบว่ายางแตกระหว่างทาง แต่ในที่สุดเที่ยวบินก็ลงจอดอย่างปลอดภัย

ในเดือนเมษายน 2012 เที่ยวบินของคาเธ่ย์จากโตรอนโตไปยังฮ่องกงประสบปัญหายางแตกระหว่างลงจอดเช่นกัน แต่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดไม่เป็นอันตราย

สายการบินอื่น ๆ ก็เจอเหตุการณ์ที่คล้ายกันกับผู้โดยสารออกจากเครื่องบินอย่างปลอดภัย ในเดือนสิงหาคม 2012 ยางล้อเครื่องบิน 2 เส้นของสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้ไปฮ่องกง เกิดระเบิดขณะลงจอด และในเดือนพฤษภาคม 2012 เครื่องบินของสายการบินดรากอนแอร์จากปักกิ่งไปฮ่องกงพบว่ายางล้อขัดข้องก่อนที่จะลงจอด

เรียบเรียงจาก SCMP

ภาพจาก AFP

นายพลนาโตเตือนชาติพันธมิตร กระสุนใกล้หมดคลังแสง

พลเรือเอก ร็อบ บาวเออร์ ประธานคณะกรรมการด้านการทหารของกลุ่มพันธมิตรนาโต (NATO) ระบุว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณว่า เครื่องกระสุนของชาติพันธมิตรกำลังจะหมดลง ดังนั้นรัฐบาลต่าง ๆ และผู้ผลิตจึงจำเป็นต้องยกระดับกำลังการผลิตให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีกมาก

พลเรือเอกบาวเออร์บอกว่า ในแต่ละวันยูเครนใช้กระสุนปืนใหญ่วันละหลายพันนัด ส่วนใหญ่มาจากชาติพันธมิตรนาโต แต่การลงทุนในด้านการผลิตอาวุธที่ต่ำเกินไปตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้คลังเครื่องกระสุนของหลายชาติสมาชิกเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง หรือแม้กระทั่งไม่เหลือเลย

รถบัสตกสะพานใกล้เมืองเวนิส เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คน

สื่อนอกรายงานเหตุ เด็ก 14 ปี ก่อเหตุยิงกลางพารากอน!

ยูเครนเล็งสร้างโรงเรียนใต้ดิน ปกป้องนักเรียนจากขีปนาวุธรัสเซีย

โดยพลเรือเอกบาวเออร์ระบุว่า รูปแบบการผลิตในปัจจุบันที่ยึดหลัก Just In Time หรือการผลิตเพียงเพื่อให้ทันความต้องการใช้งาน โดยไม่มีการผลิตสินค้าสำรองไว้ไม่เหมาะต่อความต้องการด้านการทหารในขณะนี้ที่สงครามยังคงดำเนินต่อไป

เช่นเดียวกับ นาย เจมส์ ฮีปปีย์ (James Heappey) รัฐมนตรีงว่าการกระทรวงเหล่าทัพอังกฤษ ที่ระบุว่าคลังอาวุธของหลายประเทศสมาชิกนาโตเริ่มมีปริมาณเหลือน้อย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเพิ่มสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายด้านการทหารต่อ GDP ให้ได้อย่างน้อย 2 เปอร์เซนต์ ตามที่เคยสัญญาไว้

ก่อนหน้านี้ นาย อาร์มิน แพพเพอร์เกอร์ (Armin Papperger) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท “ไรน์เมทัล” (Rheinmetall) ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่สัญชาติเยอรมนีประเมินว่ายูเครนมีความต้องการใช้กระสุนปืนใหญ่ปีละ 1.5 ล้านนัด

โดยกระทรวงกลาโหมอังกฤษเปิดเผยว่านับตั้งแต่เกิดสงครามเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ได้ส่งกระสุนปืนใหญ่ไปช่วยยูเครนประมาณ 300,000 นัด และสัญญาว่าจะส่งกระสุนปืนใหญ่อีกหลายหมื่นนัดให้ยูเครนในช่วงที่เหลือของปีนี้

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ส่งกระสุนปืนใหญ่ช่วยเหลือยูเครนมากที่สุดคือสหรัฐฯ ซึ่งตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้ส่งกระสุนปืนใหญ่มาตรฐานนาโตขนาด 155 มิลลิเมตร ให้ยูเครนไปแล้ว 2 ล้านนัด

โดยความกังวลหลักในขณะนี้คือยูเครนใช้กระสุนปืนใหญ่หมดเร็วกว่าที่ชาติตะวันตกคาดการณ์ และ แม้ว่าทั้งนาโตและสหภาพยุโรป จะใช้หลายวิธีเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ที่รวมถึงการให่เงินอุดหนุนภาคเอกชน แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในขณะที่นักวิเคราะห์มองว่ารัสเซียทำได้ดีกว่าชาติตะวันตกในด้านการเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธ

ความกังวลนี้ยังถูกซ้ำเติมด้วยความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ ที่งบประมาณรายจ่ายชั่วคราว ซึ่งจะใช้ไปจนถึงวันที่ 17 พ.ย.ไม่มีการจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือยูเครน และความเป็นไปได้ที่ อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อความช่วยเหลือยูเครนเช่นกัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนประกาศเมื่อวันเสาร์ (30 ก.ย.) ที่ผ่านมาว่าต้องการยกระดับอุตสาหกรรมอาวุธของยูเครนให้กลายเป็น “ศูนย์กลางทหารขนาดใหญ่” โดยจะจับมือเป็นหุ้นส่วนกับผู้ผลิตอาวุธต่างชาติ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธสำหรับใช้ทำสงครามต่อต้านรัสเซีย

เซเลนสกี ย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ คือระบบป้องกันภัยทางอากาศและอุปกรณ์เก็บกู้ระเบิด นอกจากนี้ยูเครนยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มการผลิตขีปนาวุธ โดรน และเครื่องกระสุนภายในประเทศด้วย

ค้นบ้านเด็กก่อเหตุยิงกลางพารากอน พบปืนบีบีกัน-กระสุนเพียบ!

 นายพลนาโตเตือนชาติพันธมิตร กระสุนใกล้หมดคลังแสง

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าลงอีก 37.11 จากดอลลาร์แข็ง-ฟันด์โฟลว์ไหลออก คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เว็บบล็อกเผย "LINE" นิยมใช้เพียง 3 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น

เปิดคาดการณ์งบไตรมาส 2 กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม จับตา 3 ปัจจัยครึ่งหลังปี 66

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส คาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL), บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) และ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ในช่วงไตรมาส 2 ปี 66 หรือตั้งแต่ เม.ย. – มิ.ย 66 เท่ากับ 6.8 พันล้านบาท เติบโต 231% จากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกจากขาดทุนปกติ 1.3 พันล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยปัจจัยมาจากจาก MINT ที่โรงแรม NH Hotel เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น (High Season) ในยุโรป และ AOT จากส่วนลดให้กับคู่ค้าทั้งสายการบิน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทยอยกลับสู่ปกติตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 ชดเชยการอ่อนตัวของกำไรปกติของ ERW และ CENTEL ที่เข้าสู่โลว์ซีซั่นของท่องเที่ยวในไทยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้หากเทียบไตรมาส 2 ปี 66 กับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (Pre-COVID) คาด ERW มีกำไรปกติฟื้นเกินกว่าไตรมาส 2 ปี 62 จากรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ของโรงแรม Ex Hop Inn สูงเกินไตรมาส 2 ปี 62 ราว 37% หนุนด้วยค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR)

 เปิดคาดการณ์งบไตรมาส 2 กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม จับตา 3 ปัจจัยครึ่งหลังปี 66

อย่างไรก็ตามตรงข้ามกับ CENTEL ที่กำไรปกติมีแนวโน้มต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 หลังรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (ไม่รวมโรงแรมในดูไบ ที่รับรู้ผ่าน Equity method) ยังต่ำกว่าไตรมาส 2 ปี 62 ราว 5% สาเหตุจากโรงแรมในมัลดีฟส์มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่ำกว่าไตรมาส 2 ปี 62

ฝ่ายวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการที่ตลาดคาดการณ์กำไรปกติงวดไตรมาส 2 ปี 66 ของ CENTEL ที่ 333 ล้านบาท สูงกว่า 2 ปี 62 ที่มีกำไร 290 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างท้าทาย สะท้อนจากงวดไตรมาส 1 ปี 66 มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่ำกว่าไตรมาส 1 ปี 62 ราว 9% ซึ่งพบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 554 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74% ของช่วงก่อนโควิด-19

จับตา 3 ปัจจัยต่อการท่องเที่ยวไทยช่วงครึ่งหลังของปี 66

1. นักท่องเที่ยวจีน ต้องลุ้นต่อช่วงครึ่งหลังของปี 66 คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน, การทยอยเพิ่มสายการบินของจีน, ความพยายามลดระยะเวลาในการอนุมัติ VISA เข้าไทย และช่วง ต.ค. 66 ที่มีโกลเด้นวีค (Golden Week) ถือเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกเดินทาง น่าจะสร้าง โมเมนตัมที่ดีของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่เหลือของปี ภาพรวมฝ่ายวิจัยประเมิน นักท่องเที่ยวจีนมาไทยทั้งปีอยู่ในกรอบ 30-40% ของปี 2562 หรือประมาณ 3.3-4.4 ล้านคน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนช่วงครึ่งแรกของปี 66 คิดเป็นสัดส่วน 33% – 44% ของสมมติฐานของนักท่องเที่ยวจีนมาไทยทั้งปี

2.นักท่องเที่ยวอินเดีย แม้ช่วงครึ่งแรกของปี 66 อยู่ที่ 7.6 แสนคน และคิดเป็น 78% ของช่วงก่อนโควิด-19 อย่างไรก็ดีมาตรการการเก็บภาษีนักท่องเที่ยวขาออก (Outbound packages) ของอินเดียจาก 5% เป็น 20% ตั้งแต่ ต.ค. 66 มีโอกาสส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียในงวดไตรมาส 4 ปี 66 หรือ อาจไม่กระทบปริมาณการเดินทางแต่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อทริปต่ำลง ซึ่งคาดว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่สูงมาก

ในทางตรงข้ามมัลดีฟส์ที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวอินเดียช่วงครึ่งแรกของปี 66 ราว 12% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามัลดีฟส์ น่าจะได้รับผลกระทบ มากกว่าไทย จึงประเมินหุ้นในกลุ่มฯ ที่มีสัดส่วนรายได้จากมัลดีฟส์มากกว่ากลุ่มฯ อย่าง CENTEL มีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันสูงกว่า MINT และ ERW

3.สถานการณ์การเมืองไทยยังไม่นิ่ง แม้ผ่านการเลือกตั้งมา 1 ไตรมาส อย่างไรก็ดีมองการชุมนุมทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ยังไม่ได้ยืดเยื้อและมีความรุนแรง จึงคงมุมมองผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยยังจำกัด เพียงแต่หากสถานการณ์พลิกผันทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลุดจากพรรคที่ ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 ไปสู่พรรคอันดับ 3, 4 หรือ 5 อาจต้องจับตาการชุมนุมทางการเมืองใกล้ชิด

เงินเฟ้อขยับขึ้นเล็กน้อย – เปิด 5 อันดับค่าใช้จ่ายครัวเรือน เดือน ก.ค.

ดัชนีครัวเรือนเดือนก.ค.ฟื้นตัวเล้กน้อย อานิสงส์จากท่องเที่ยวฟื้น

เดือน ก.ค. คาด AOT ผู้โดยสารใช้บริการทำจุดสูงสุดของปี

สำหรับการท่องเที่ยวไทย ฝ่ายวิจัยประเมินฟื้นตัวต่อเนื่องหลังผ่านโลว์ซีซั่น สะท้อนจากนผู้โดยสารระหว่างประเทศเบื้องต้น 6 สนามบิน (ขาเข้า + ขาอออก) ของ AOT ช่วง ก.ค. 66 อยู่ที่ 5.2 ล้านคน ทำจุดสูงสุดของปี และฟื้นตัวสู่ระดับ 74% ของ ก.ค. 62

ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลผู้โดยสารระหว่างประเทศ 6 สนามบิน ช่วง ส.ค. 60-62 พบว่าเติบโตเฉลี่ยราว 2% เมื่อเทียบรายเดือน ภายใต้โมเมนตัมของการเปิดประเทศ ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ผู้โดยสารระหว่างประเทศ ส.ค. 66 เพิ่มขึ้นทั้งรายเดือน และ รายปี

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวประเมินเป็นบวกต่อกำไรปกติงวด ก.ค.-ก.ย.66 ของหุ้นที่มีรายได้จากไทยเป็นหลัก AOT, CENTEL และ ERW ให้ขยายตัวทั้วรายไตรมาสและรายปี พร้อมกับคาดกำไรปกติไต่ระดับเป็นขั้นบันไดจนถึงงวดไตรมาส 1 ปี 67 (ไตรมาส 2 ปี 67 ของ AOT) ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของท่องเที่ยวไทย

ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดบวก 100 บาท ต่างประเทศขยับ-บาทอ่อน

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศ (28 ส.ค.2566) ปิดตลาดขยับขึ้น 100 บาท ทองต่างประเทศแกว่งแคบ ๆ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

  • ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 31,850.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 31,950.00 บาท/บาททองคำ
  • ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,275.08บาท/บาททองคำ และขายออก 32,450.00 บาท/บาททองคำ

ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,916.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 35.28บาท/ดอลลาร์

ราคาทองวันนี้ เปิดการซื้อขายปรับขึ้น 50 บาท ต่างประเทศฟื้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่าเล็กน้อย กังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

ราคาทองคำฟิวเจอร์เคลื่อนไหวแคบ ๆ จากปิดตลาดวันศุกร์

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินท่าทีของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ให้ความเห็นว่าเฟดยังต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะกระทบต่อราคาทองคำ

แต่ราคาทองปรับลงในกรอบที่จำกัด จากปัจจัยเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจโลก และเงินเฟ้อสูง ทำให้ราคาฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในช่วงต้นเดือนส.ค. แต่ราคาทองคำก็ไปได้ไม่ไกลจากแรงกดดันดอกเบี้ยเฟดและค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า

ราคาทองสปอต เคลื่อนไหวแคบ ๆ อยู่ที่ 1,915.11 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนทองคำฟิวเจอร์เพิ่มขึ้น 0.1% เคลื่อนไหวที่ 1,942.50 ดอลลาร์/ออนซ์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่านักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. แต่ใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลบวกต่อทองคำ

การแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง หัวข้อ “Structural Shifts in the Global Economy” โดยนายพาวเวลยังคงส่งสัญญาณในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด แต่ก็ยังอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความเหมาะสม และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่งผลให้ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงเข้าใกล้ 1,900 ดอลลาร์

ทั้งนี้การแถลงของประธานเฟดได้สอดคล้องมุมมองเดิมที่เฟดยังคงเน้นย้ำจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ขณะที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมที่เหลือในปีนี้ แต่ภายหลังการประชุมประจำปีของเฟดครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. โดยเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ระดับ 5.25%-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย.

แต่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มาสู่ระดับ 5.50%-5.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการอัตราดอกเบี้ยหรือ Dot Plot ล่าสุด โดยประมาณการอัตราดอกเบี้ยหรือ Dot Plot สิ้นปีนี้เป็น 5.6% สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก สู่ระดับ 5.50-5.75%

การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด หรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็ยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่อความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะอยู่ระดับสูงอีกนานนั้น ได้ส่งผลต่อดอกเบี้ยเงินกู้ที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลล่าสุดจาก Mortgage News Daily ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้พุ่งขึ้นใกล้ 7.5% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ซึ่งได้กระทบต่อคนซื้อบ้านในสหรัฐเป็นอย่างมาก ณ ขณะนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการบ้านลดลง โดยยอดขายบ้านได้ลดลงอย่างมากจากปีที่แล้ว และอาจส่งผลต่อความสามารถในการจ่าย

อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้สิ้นสุด โดยส่วนหนึ่งยังมีมุมมองว่าดอกเบี้ยอาจจะลดลงในสิ้นปี 2566 ก็อาจจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงได้ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งมุมมองการคาดถึงแนวโน้มเฟดใกล้ยุติขึ้นดอกเบี้ยนั้น ก็ส่งผลให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ จากผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจ และคาดว่าจะยังคงระดับการลงทุนหรือเพิ่มการลงทุนทองคำต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้

ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ไม่พบว่ามีนักลงทุนกลุ่มใดที่วางแผนจะปรับลดการลงทุนในทองคำในช่วงเวลา 12 เดือนข้างหน้า อีกทั้งยังพบการคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น ขณะที่บางรายยังเชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยผลสำรวจนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-22 ส.ค.ที่ผ่านมานี้ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำในปี 2567

คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหว Sideways โดยสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,885 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,930 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,936 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,600 บาท และ 31,500 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 31,900 บาท และ 32,100 บาท

 ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดบวก 100 บาท ต่างประเทศขยับ-บาทอ่อน

เปิด 5 ปัจจัยสำคัญ คาดการณ์ราคาทอง ต้องดูอะไรบ้าง-

ช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไม่หยุด ทำสถิติสูงสุดรายวัน หรือ All Time High นักลงทุนจึงเข้าซื้อทองคำเก็งกำไร ยิ่งมีการคาดการณ์ว่าราคาทองมีโอกาสจะปรับขึ้นถึง 38,000-40,000 บาท ภายในปีนี้ นักลงทุนจึงนิยมมีทองคำไว้ติดพอร์ตลงทุน

ราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง ตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ ดังนั้นนักลงทุนต้องทำการศึกษาข้อมูล และ ดูปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มการขึ้นลงของราคาทองคำในตลาดโลก

ราคาทองวันนี้ (7 มี.ค.67) ในประเทศขึ้นอีก 200 บาท ทองแท่งกลับมาแตะ 36,050 บาท

เยาวราชแทบแตก คนแห่ซื้อทองแน่น หวังเก็งกำไรต่อ หลังราคาพุ่งสถิติใหม่

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ทองคำมีความสัมพันธ์กับสกุลเงินดอลลาร์มาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงการเทรดทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) ก็ใช้ดอลลาร์สหรัฐในการอ้างอิงราคาทองคำต่อออนซ์ การเปลี่ยนแปลงของเงินสกุลดอลลาร์จึงส่งผลต่อราคาทองคำมากกว่าเงินสกุลอื่น หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญของโลก เช่น ยูโร, หยวน, ปอนด์ นักลงทุนจะหันมาเก็งกำไรในทองคำ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกันหากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ทองคำก็จะถูกลดความน่าสนใจลง ราคาก็จะลดต่ำลง

2. อัตราเงินเฟ้อ

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ ราคาทองคำจึงมักไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น เงินลงทุนจะไหลเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดลงของมูลค่าเงินจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เมื่อทองคำเป็นที่ต้องการมากขึ้น ราคาก็จะปรับตัวสูงขึ้น

3คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย

ปัจจัยด้านนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยจะมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาทองคำ โดยเฉพาะนโยบายที่มาจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนในทองคำต้องติดตาม หากนโยบายที่ประกาศเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงพอที่จะต่อกรกับเงินเฟ้อได้ ก็จะกดราคาทองคำลง แต่ถ้านโยบายและอัตราดอกเบี้ยไม่หวือหวาพอจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาทองคำก็จะยังไปต่อได้

4. ระดับราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันมักจะมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับทองคำโลก เพราะน้ำมันเป็นตัวผลักดันให้เกิดเงินเฟ้อได้ในลักษณะของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำมาคำนวณเงินเฟ้อ ดังนั้นถ้าราคาน้ำมันสูงขึ้น ราคาทองก็คำก็มักจะสูงตาม แต่ก็มีหลายครั้งที่ราคาน้ำมันและทองคำเดินสวนทางกัน ซึ่งมักเป็นเป็นผลมาจากอุปสงค์และอุปทาน ของตัวน้ำมันและทองคำเอง

5.วิกฤติการณ์ต่างๆ

หากมีวิกฤติการณ์เกิดขึ้น เช่น วิกฤติซับไพร์ม วิกฤติโรคระบาด ความขัดแย้งทางการเมืองระดับโลก หรือภาวะสงคราม ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่สร้างความมั่นใจแก่ผู้ถือครองมากกว่าการถือทรัพย์สินอื่นๆ หรือเงินสกุลที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนั้น

ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงตัวชี้วัดคร่าวๆ เท่านั้น ราคาทองคำยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) มักสวนทางกับราคาทองคำ หรือหากมีการประกาศนโยบายที่แม้เป็นผลบวกกับราคาทองคำ แต่ผู้บริโภค และนักลงทุน ไม่เชื่อมั่นว่าจะเป็นจริงได้ ก็จะทำให้ราคาทองคำไม่เป็นไปตามคาดการณ์ได้เช่นกัน การจะลงทุนในทองคำจึงต้องติดตามข่าวสารรอบด้านอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์

https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/grow-your-wealth/gold-price.html

ผลบอลยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก ลิเวอร์พูล บุกถล่ม สปาร์ต้า ปราก 5-1

ชวนรู้จัก "ดาวตก-อุกกาบาต-ดาวหาง" สามวัตถุนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

เปิด 15 คำหาเสียง “โดนัลด์ ทรัมป์” หากได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2

 เปิด 5 ปัจจัยสำคัญ  คาดการณ์ราคาทอง ต้องดูอะไรบ้าง-

เบื้องหลัง “สน ยุกต์” ทุ่มทุนตากฝน ตามขอโทษ “ปุ๊กลุก” ในละคร “ปาฏิหาริย์รัก”

อีกหนึ่งการถ่ายทำของกองละคร “ปาฏิหาริย์รัก” ที่ขนกองมาถ่ายทำท่ามกลางบรรยากาศสสุดแสนโรแมนติกที่ห้อมล้อมด้วยหุบเขาที่เขาใหญ่คำพูดจาก สล็อต777

ถึงบรรยากาศจะดีขนาดไหนแต่ฉากที่นักแสดงเข้าฉากไม่ดีตาม เพราะ “สน ยุกต์” ที่รับบท "ชัชวิน" แอบรู้สึกผิดที่พูดไม่ดี พูดแรงใส่นางเอก “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” ที่รับบท “ดาวิกา”ถึงเรื่องการจากไปของ “ปวีร์” อดีตคนรัก ที่รับบโดย “พุฒ พุฒิชัย” ไม่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่เลยรีบตามมาขอโทษถึงที่บ้าน

งานนี้หนุ่ม “สน” ก็ทุ่มเทเต็มที่กับซีนฝนตกนี้ ที่นอกจากจะต้องเปียกแล้ว ยังต้องถ่ายทอดอารมณ์เศร้าของ “ชัชวิน” ด้วย รวมไปถึงอากาศในวันถ่ายทำก็ค่อนข้างเย็น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคเพราะนักแสดงหนุ่มเขาเต็มที่มากๆ

“ปุ๊กลุก – สน” คอนเฟิร์ม “ปาฏิหาริย์รัก” สนุกสมการอคอย เบื้องหน้าดราม่า เบื้องหลังมีเขิน!

รักสามเส้า “พุฒ-ปุ๊กลุก-สน” เปิดฉากเข้มข้น ในละคร “ปาฏิหาริย์รัก” ทาง 'พีพีทีวี'

 เบื้องหลัง “สน ยุกต์” ทุ่มทุนตากฝน ตามขอโทษ “ปุ๊กลุก” ในละคร “ปาฏิหาริย์รัก”

เลือกตั้ง 2566 – เด็กม.3 ยังไม่ตัดสินใจเรียนรด.-รอดูรัฐบาลใหม่

กลุ่มนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนชายล้วนกลุ่มหนึ่งย่านพระนคร บอกว่าพวกเขายังรอดูนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร จะทำได้สำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเทอมหน้า คือช่วงประมาณปลายปีนี้ จะต้องตัดสินใจว่าจะเรียน รด.หรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการเกณฑ์ทหาร พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จะไม่เรียน รด.โดยบางส่วนมองว่าไม่จำเป็น และเป็นการเสียเวลาในการทำอย่างอื่น ขณะที่อีกส่วน อยากสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารอยู่แล้ว และมองว่าการฝึกร่างกายด้วยตนเองก็เพียงพอไม่จำเป็นต้องเรียน รด.

เลือกตั้ง 2566 : "ชลน่าน" ซัด "ศิธา" ถ้าแซะปม MOU ไม่จบ ทำงานร่วมยาก

เลือกตั้ง 2566 :"ชลน่าน" ฟาด "ศิธา" ไร้มารยาท ปม เซ็นแอดวานซ์ เอ็มโอยู

ทีมข่าวพีพีทีวี ยังลงพื้นที่ สำรวจค่าชุดเครื่องแบบที่เด็กต้องเสียในการเรียน รด. ที่ร้านค้าบริเวณถนนอัษฎางค์ หลังกระทรวงกลาโหม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ไม่ให้ข้อมูล กับทีมข่าว แต่มีร้านหนึ่งที่ให้ข้อมูล พบว่า ขั้นต่ำที่เด็กต้องจ่ายในการจะซื้อชุดเครื่องแบบ รด. ครบชุด ประมาณ 1500 บาทคำพูดจาก สล็อต888

เมื่อแจกแจงทีละชิ้น สิ่งที่เด็กต้องซื้อ ประกอบด้วย เสื้อและกางเกง ซึ่งไซซ์เล็กสุดคือตั้งแต่เอว 36 นิ้วลงมา ราคาชุดละ 720 บาท (ถ้าเพิ่มไซซ์ ราคาจะเพิ่มขึ้นอีก) เสื้อยืดตัวใน ไซซ์ L ลงมา ราคา 75 บาท หมวก 60 บาท เข็มขัดพร้อมสาย 70 บาท รองเท้าคอมแบท 500 บาท และเครื่องหมายติดเสื้อ ประกอบด้วย ตราโรงเรียน ป้ายชื่อ ชั้นปี หมวดจังหวัด ป้ายรักชาติยิ่งชีพ และเครื่องหมาย รด. รวมประมาณ 100-150 บาท

 เลือกตั้ง 2566 - เด็กม.3 ยังไม่ตัดสินใจเรียนรด.-รอดูรัฐบาลใหม่

ผู้ประกอบการรายนี้ มองว่า เป็นการเสียครั้งเดียว แต่ชุดสามารถใช้ซ้ำได้หลายปี และมีความทนทานเหมาะแก่การฝึกฝน โดยเธอให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร บอกว่า ตอนนี้ร้านค้าของเธอยังไม่ได้ผลกระทบ แต่ก็ยังติดตามอยู่ว่าในช่วง 1 ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือไม่ เพราะหากยกเลิกเกณฑ์ทหารขึ้นมาจริงๆ คาดว่ายอดขายจะเหลือเพียง 60 เปอร์เซ็นต์จากเดิม และนอกจากร้านของเธอจะได้รับผลกระทบ เธอมองว่าจะส่งผลไปถึงโรงงานผู้ผลิต ซึ่งมีลูกน้องและคนงานต้องดูแลจำนวนมาก

แต่ถ้าตัดเรื่องผลกระทบส่วนตัว ผู้ประกอบการคนนี้ เห็นด้วยกับการยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่ยังอยากให้บังคับเรียน รด. เพราะมองว่ามีข้อดีคือฝึกระเบียบวินัยให้เด็ก ซึ่งหากไม่บังคับ เด็กคงไม่เรียน นอกจากนี้ เธออยากให้การผลักดันนโยบายนี้ คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา และเตรียมทางออกตรงกลางให้กับทุกฝ่าย