เดอะค็อป รอเลย! “แกมโบล” จ่อเปิดตัวรองเท้าคอลเล็กชั่น “ลิเวอร์พูล” อีก 6 รุ่น

ธุรกิจ “แฟนเช่า” รุ่งเรือง เมื่อชาวจีนรุ่นใหม่ไม่อยากแต่งงาน

“กรุงไทย” ชี้แผนยกระดับแหลมฉบังสู่ท่าเรือสีเขียว สร้างโอกาส 3 ธุรกิจ

แฟนหงส์แดง โหวต อลีสซง คว้านักเตะแห่งปีลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2022-23

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 คุณนิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ชื่อดัง “แกมโบล” (GAMBOL) เปิดเผยว่า ในปี 65 ที่ผ่านมาการร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เอฟซี (Liverpool FC) เปิดตัวรองเท้าลำรองคอลเล็กชั่นลิขสิทธิ์แท้ ได้รับแสตอบรับดีเป็นอย่างมากจากแฟนบอลหงส์แดง จนยอดพรีออเดอร์เต็มภายใน 30 นาทีแรกในวันเปิดตัว

โดยจุดเริ่มต้นในการร่วมมือดังกล่าว เนื่องจากเล็งเห็นว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมรักสุขภาพมากขึ้น จึงขยายตลาดมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนรักกีฬา ซึ่งลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่ใหญ่ และกลุ่มคนรักกีฬาก็รู้จักกันดี บริษัทจึงได้ซื้อลิขสิทธิ์มาทดลองกับสินค้า ผลปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด

ทั้งนี้บริษัทยังเหลือสัญญากับลิเวอร์พูลอีก 2 ปี และในปีนี้ 66 บริษัทเตรียมเปิดตัวรองเท้าลำรอง (รองเท้าแตะ) คอลเล็กชั่นลิเวอร์พูลลิขสิทธิ์แท้ อีกราว 5-6 รุ่น ซึ่งยังคงเป็นรุ่นลิมิเต็ด ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากสโมสรลิเวอร์พูลแล้ว

ตอนนี้น่าจะมีการอนุมัติแล้วมาประมาณ 5-6 รุ่น แต่เราไม่ได้ปล่อยไปทีเดียวในเฟส 2 ทันที อาจจะทยอยไป เหมือนเป็นสต็อกให้เราว่าจะปล่อยตัวไหนก่อน

ขณะที่การดำเนินงานในปีนี้ 66 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,300 ล้านบาท และในปี 70 ที่ 3,500 ล้านบาท โดยตอนนี้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรองเท้าลําลองในไทยคิดเป็นสัดส่วน 10% ของมูลตลาดทั้งหมด 10,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของแบรนด์ไทย ส่วนในต่างประเทศได้เตรียมขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงแถบยุโรป เช่น อิตาลี รัสเซีย ยูเครน และจอร์เจีย ส่วนตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คุณนิติ ยอมรับว่าในกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงมีแรงกดดันจากสินค้าของจีน ซึ่งมีการแข่งขันกันในด้านราคาสูง

ในแถบ CLMV คู่แข่งก็คือจีนแน่นอน เพราะว่าพวกนี้สามารถจะนำเข้ามาจากแนวชายแดนเขาได้ และพอจีนเข้ามา ที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือสงครามราคา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามสร้างความแปลกใหม่ ความแตกต่าง แบบของจีนเขาไม่ทำแต่เราทำอะไรแบบนี้”

สำหรับโรงงานรองเท้าปัจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตราว 40,000 คู่ จากกำลังการผลิตที่ทำได้ทั้งหมด 50,000 คู่ ซึ่งคุณนิติ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีแผนขยายโรงงานเพิ่มเติม เนื่องจากมองว่ากำลังผลิตยังเหลือเพียงพอรองรับตลาดทั้งในและนอกประเทศได้

ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นบริหารต้นทุนมากขึ้น ทั้งด้านค่าแรง และใช้วัตถุดิบให้คุ้มค่า โดยตั้งเป้าให้โรงงานลดค่าใช้จ่ายให้ได้อย่างน้อยปีละ 10%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 เดอะค็อป รอเลย! “แกมโบล” จ่อเปิดตัวรองเท้าคอลเล็กชั่น “ลิเวอร์พูล” อีก 6 รุ่น

ส่วนกรณีนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ คุณนิติ ยอมรับว่ามีผลกระทบกับบริษัท ดังนั้นจึงต้องพยายามหาเครื่องจักรอัตโนมัติ เช่น แขนกลหุ่นยนต์ มาทำงานในส่วนที่สามารถทดแทนแรงงานคนให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการใช้แรงงานคน